หน้าหลัก > ROBO ADVISOR
เพียง!...เปิดบัญชีลงทุน และลงทุนแบบ DCA (พร้อมตั้งลงทุนรายเดือน)
เงื่อนไขสิทธิพิเศษ
สำหรับลูกค้าใหม่ที่เปิดบัญชีลงทุนกับบริษัทหลักทรัพย์ไทยพาณิชย์ เมื่อส่งคำสั่งลงทุน “ออมหุ้น” และหรือ “ออมกองทุน” รับเลย! Starbucks e-Coupon 100 บาท
ROBO ADVISOR เป็นบริการที่ช่วยบริหารพอร์ตลงทุนอัตโนมัติแบบการกระจายการลงทุนไปในสินทรัพย์ต่างๆ (Asset Allocation) อย่างเป็นระบบเพื่อช่วยให้คุณบรรลุเป้าหมายทางการเงินทั้งในระยะสั้น และระยะยาวได้อย่างมั่นใจ แผนการลงทุนที่ออกแบบ จะอ้างอิงจากทฤษฎี Modern Portfolio Theory (MPT) ซึ่งอธิบายถึงประโยชน์ของการกระจายการลงทุนไปในสินทรัพย์ที่หลากหลาย ซึ่งเป็นผลงานวิจัยที่ได้รับรางวัลโนเบลในปี 2533 ของนักเศรษฐศาสตร์ชื่อ Harry Markowitz
นอกจากนั้น SCBS ยังจัดตั้งคณะกรรมการการลงทุนเพื่อติดตามและประเมิน ภาวะตลาดการลงทุน ตรวจสอบประสิทธิภาพแผนการลงทุน พิจารณาและอนุมัติการปรับเปลี่ยนแผนหรือกลยุทธ์การลงทุน เพื่อให้มั่นใจได้ว่า ROBO ADVISOR จะนำเสนอแผนการลงทุนที่มีการกระจายความเสี่ยงอย่างเหมาะสม และสอดรับกับภาวการณ์ลงทุน
พิจารณาคัดเลือกกองทุนรวมจากหลากหลายบลจ.ชั้นนำกว่า 14 บลจ. ที่มีความสม่ำเสมอในการสร้างผลตอบแทนปรับด้วยความเสี่ยงมากกว่ากองทุนรวมที่มีผลตอบแทนโดดเด่นเพียงแค่ช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง โดยจะนำข้อมูลย้อนหลังในหลายๆ ช่วงเวลามาพิจารณาประกอบกันทั้ง 1ปี, 3ปี และ 5ปี* โดยเปรียบเทียบทั้งในมุมมองของผลตอบแทนกองทุนรวม, ความเสี่ยง (ความผันผวน และการปรับตัวลงของกองทุนรวมที่มากที่สุด (Maximum Drawdown) และผลตอบแทนที่ปรับด้วยความเสี่ยง (Sharp Ratio) เป็นต้น
*ในบางกรณีที่ข้อมูลย้อนหลังไม่เพียงพอ เช่น เป็นกองทุนรวมที่มีนโยบายลงทุนผ่านกองทุนรวมต่างประเทศ อาจพิจารณาจากผลดำเนินงาน และความเสี่ยงจากกองทุนหลัก (Master Fund) ได้
พิจารณาถึงกระบวนการบริหารการลงทุน, การบริหารความเสี่ยง, การเปลี่ยนแปลงของบุคคลสำคัญ ทั้งผู้ที่เกี่ยวข้องกับการบริหารการลงทุน และการควบคุมความเสี่ยง ซี่งประเมินจากแบบสอบถาม และ/หรือ การสัมภาษณ์จากตัวแทนของบลจ. เพื่อประเมินและสร้างความเชื่อมั่นต่อแนวทางบริหารงานซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อผลดำเนินงานของกองทุนรวมในอนาคตได้
คณะกรรมการการลงทุนของ SCBS มีการประชุมอย่างสม่ำเสมอเพื่อติดตาม และประเมินผลการดำเนินงานของแผนการลงทุน ประเมินภาวะการลงทุน และอาจพิจารณาปรับเปลี่ยนสัดส่วนการลงทุนตามสมควรเพื่อให้มั่นใจได้ว่าแผนการลงทุนมีการกระจายความเสี่ยงอย่างเหมาะสม และสอดรับกับภาวะการลงทุนที่เรียกว่าการปรับแผนการลงทุนเชิงกลยุทธ์ (Tactical Allocation) ทั้งนี้ในบางครั้งอาจมีการเปลี่ยนแปลงกองทุนรวมบ้างตามความเหมาะสม หากคณะกรรมการลงทุนเห็นว่ามีกองทุนรวมอื่นๆ ที่เป็นทางเลือกที่เหมาะสมกว่า
เมื่อคุณเริ่มลงทุนสักระยะหนึ่ง การเปลี่ยนแปลงของราคากองทุนรวมต่างๆ จะเปลี่ยนไปตามภาวะตลาด ส่งผลให้สัดส่วนของแต่ละสินทรัพย์ที่ลงทุนเริ่มผิดเพี้ยนไปจากสัดส่วนการลงทุนที่เหมาะสม อาจส่งผลให้พอร์ตลงทุนมีความเสี่ยงสูง หรือต่ำไปกว่าที่ควรจะเป็น ทั้งนี้เพื่อให้มั่นใจว่าแผนการลงทุนมีการกระจายความเสี่ยง และสร้างผลตอบแทนปรับด้วยความเสี่ยงได้ตามที่คาดหวังไว้ บริการ ROBO ADVISOR ได้ออกแบบกระบวนการปรับพอร์ตลงทุน (Rebalancing) เพื่อปรับสัดส่วนกองทุนรวมต่างๆ ให้กลับเข้าสู่จุดที่เหมาะสม โดยจะปรับพอร์ตลงทุนให้คุณอัตโนมัติในทุกๆ ไตรมาส
บริการ ROBO ADVISOR ช่วยให้เป้าหมายการลงทุนของคุณสำเร็จได้ เพียงระบุว่าเป้าหมายของคุณคืออะไร ต้องการให้สำเร็จในระยะเวลาเท่าไร ต้องการลงทุนรายเดือนหรือไม่ และคุณยอมรับความเสี่ยงในการลงทุนได้มากน้อยเพียงใด บริการ ROBO ADVISOR ออกแบบแผนการลงทุนให้เหมาะสมกับเป้าหมายและระดับความเสี่ยงในการลงทุนของคุณ ลงทุนให้คุณอัตโนมัติตามแผนการลงทุนที่ถูกออกแบบและได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการการลงทุน ปรับพอร์ตลงทุนเพื่อรักษาระดับความเสี่ยงการลงทุนให้เป็นไปตามที่คุณเลือกไว้
บริการ ROBO ADVISOR จาก SCBS ตัวช่วยดูแลพอร์ตลงทุนให้คุณ
เสมือนมีที่ปรึกษาการลงทุนส่วนตัวคอยดูแล
บริการ ROBO ADVISOR มีทางเลือกผลิตภัณฑ์การลงทุนในกองทุนรวมจากหลากหลายบลจ. ทำให้สามารถออกแบบแผนการลงทุนให้เหมาะสมกับเป้าหมายและระดับความเสี่ยงที่คุณยอมรับได้มากที่สุด โดยผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนเฉพาะด้านมากกว่า 20 ปี
บริการ ROBO ADVISOR คำนึงถึงผลประโยชน์ของคุณเป็นหลักช่วยส่งคำสั่งซื้อขาย ติดตาม และดูแลพอร์ตลงทุนให้อัตโนมัติ อีกทั้งยังสร้างวินัยการลงทุนให้คุณด้วยการตัดเงินลงทุนรายเดือนให้อัตโนมัติ อำนวยความสะดวกให้คุณได้ลงทุนอย่างสม่ำเสมอ
หมายเหตุ: ขณะนี้บริษัทได้ยกเว้นค่าธรรมเนียมดังกล่าว แต่บริษัทมีสิทธิประกาศกำหนดอัตราและเงื่อนไขเกี่ยวกับค่าธรรมเนียมและค่าใช้บริการ รวมทั้งค่าใช้จ่ายใดๆ ได้ตามที่บริษัทเห็นสมควร
คำถามทั่วไป | |
บริการ ROBO ADVISOR คืออะไร? | ROBO ADVISOR คือ บริการลงทุนในกองทุนรวมอัตโนมัติแบบการกระจายการลงทุนไปในสินทรัพย์ต่างๆ (Asset Allocation) อย่างเป็นระบบ ถือเป็นตัวช่วยในการลงทุนที่จะแนะนำและบริหารจัดการพอร์ตลงทุนของคุณอย่างมีประสิทธิภาพ โดยให้บริการอย่างครบวงจรดังนี้ - บริการออกแบบแผนการลงทุนตามเป้าหมายและความเสี่ยงที่ยอมรับได้ - บริการส่งคำสั่งซื้อ-ขายกองทุนรวมอัตโนมัติ - บริการหักบัญชีอัตโนมัติ กรณีตั้งลงทุนรายเดือน - บริการปรับพอร์ตลงทุนให้อยู่ในสัดส่วนที่เหมาะสมและสอดคล้องกับภาวะตลาดสามารถใช้บริการ ROBO ADVISOR ได้ผ่านแอปพลิเคชัน EASY INVEST |
การลงทุนโดยการตั้งเป้าหมาย คืออะไร? | บริการ ROBO ADVISOR สนับสนุนให้ทุกคนออมเงินและลงทุนเพื่อเป้าหมายที่สำคัญ เช่น ต้องการมีเงินล้าน ต้องการลงทุนใน LTF เพื่อลดหย่อนภาษี โดยเมื่อคุณลงทุนกับ ROBO ADVISOR เราจะช่วยออกแบบแผนการลงทุน จัดการและบริหารการลงทุนให้กับคุณ เพื่อให้ได้ผลตอบแทนที่ทำให้เป้าหมายที่ตั้งไว้สำเร็จลุล่วงได้ภายในระยะเวลาที่กำหนดไว้ |
การลงทุนของบริการ ROBO ADVISOR ทำงานอย่างไร? | เมื่อคุณกำหนดเป้าหมาย ระยะเวลา และจำนวนเงินลงทุนเรียบร้อยแล้ว ระบบจะทำการประมวลผลเพื่อออกแบบแผนการลงทุนที่เหมาะสมให้กับคุณ รวมถึงทำการซื้อ-ขายอัตโนมัติและคอยดูแลพอร์ตลงทุนของคุณให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมตามความเสี่ยงที่คุณยอมรับได้ (Automated Rebalancing) |
ทำไมต้องปรับพอร์ตลงทุน (Rebalance)? | เมื่อมีการลงทุนไปสักระยะ ผลตอบแทนของสินทรัพย์ต่างๆ อาจทำให้สัดส่วนของพอร์ตลงทุนไม่เป็นตามแผนการลงทุนที่ตั้งไว้ เราจึงควรขายสินทรัพย์ที่เกินสัดส่วนที่กำหนด และซื้อสินทรัพย์ที่มีสัดส่วนน้อยกว่า ให้กลับมาอยู่ในสัดส่วนตาม Asset Allocation เดิม ที่ทำให้พอร์ตลงทุนไม่มีความเสี่ยงสูง หรือต่ำจนเกินไป เพื่อสร้างผลตอบแทนในระยะยาวที่มั่นคง |
มีค่าธรรมเนียมการใช้บริการ ROBO ADVISOR หรือไม่? | ขณะนี้บริษัทได้ยกเว้นค่าธรรมเนียมดังกล่าว แต่บริษัทมีสิทธิประกาศกำหนดอัตราและเงื่อนไขเกี่ยวกับค่าธรรมเนียมและค่าใช้บริการ รวมทั้งค่าใช้จ่ายใดๆ ได้ตามที่เห็นสมควร |
คุณสมบัติของผู้สมัครที่สามารถเปิดบัญชีลงทุนเพื่อใช้บริการ ROBO ADVISOR? | บุคคลธรรมดา ที่มีสัญชาติไทย อายุ 20 ปีขึ้นไป |
หากคุณเลือกที่จะไม่ยอมรับความเสี่ยงเรื่องอัตราแลกเปลี่ยน จะมีความสัมพันธ์กับแผนการลงทุนอย่างไร? | หากคุณเลือกที่จะไม่ยอมรับความเสี่ยงเรื่องอัตราแลกเปลี่ยน ระบบจะออกแบบแผนการลงทุนที่ไม่มีการลงทุนในกองทุนรวมต่างประเทศและ/หรือกองทุนรวมที่มีนโยบายการลงทุนต่างประเทศซึ่งมีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนจากการลงทุนให้กับคุณ |
หากสถานะคำสั่งซื้อ-ขายเป็น "พบข้อผิดพลาด"(Error occurred) ต้องทำอย่างไร? | กรุณาติดต่อผู้แนะนำการลงทุนของคุณ หรือ SCBS Call Center 02 949 1999 เพื่อตรวจสอบข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้น |
Time weight rate of return คืออะไร? | การคิดผลตอบแทนเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักตามเวลา (Time-weighted return) เป็นการคิดผลตอบแทนจากฐานของเงินลงทุนในแต่ละปี โดยไม่นำการเปลี่ยนแปลงของเงินทุน เช่น การเพิ่ม/ลดเงินลงทุน ราคาสินทรัพย์ หรือ เงินปันผล แต่จะสนใจเฉพาะมูลค่าที่เปลี่ยนแปลงไปของพอร์ตลงทุนเท่านั้น เพื่อให้การคำนวณกำไร/ขาดทุนจากการลงทุนเป็นไปอย่างแม่นยำโดยไม่มีปัจจัยอื่นมากระทบ |
มีวิธีการจ่ายเงินปันผลอย่างไร? | ระบบจะโอนเงินปันผลเข้าบัญชีเงินฝากที่คุณให้ไว้ หากคุณได้เลือกให้บริษัทฯ/บริษัทจัดการฯ ทำการหักภาษี ณ ที่จ่าย บริษัทฯ/บริษัทจัดการฯ จะดำเนินการหักภาษี ณ ที่จ่าย และยื่นภาษีให้กับคุณในอัตรา 10% ของเงินปันผล |
เริ่มต้นลงทุน | |
เริ่มต้นลงทุนกับบริการ ROBO ADVISOR ได้อย่างไร? | คุณสามารถตั้งเป้าหมายและระบุรายละเอียดการลงทุนต่างๆ เพื่อให้บริการ ROBO ADVISOR ช่วยออกแบบแผนการลงทุนให้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย ผ่านแอปพลิเคชัน EASY INVEST โดยคุณจำเป็นต้องมีบัญชีลงทุนกับ SCBS เพื่อใช้บริการ ROBO ADVISOR สามารถเปิดบัญชีดังกล่าวได้ 3 ช่องทาง ได้แก่ 1. SCB EASY App : เปิดบัญชีลงทุนด้วยตนเอง สะดวกยืนยันตัวตนเพียงใช้รหัส OTP หมายเหตุ: ต้องสมัครบริการหักบัญชีอัตโนมัติโดยใช้บัญชีเงินฝากของธนาคารไทยพาณิชย์เท่านั้น |
ยกเลิกคำสั่งซื้อหน่วยลงทุนได้หรือไม่? | เมื่อคุณเริ่มลงทุนก่อนเวลา 15.30 คุณจะไม่สามารถยกเลิกคำสั่งซื้อได้ เนื่องจากบริการ ROBO ADVISOR ได้ดำเนินการส่งคำสั่งซื้อและหักบัญชีฯ เพื่อชำระคำสั่งซื้อแล้ว คุณจะไม่สามารถยกเลิกรายการคำสั่งซื้อได้ จนกว่าบลจ. จะดำเนินการจัดสรรหน่วยลงทุน โดยคุณจะสามารถดำเนินการถอนเงินลงทุนได้หลังจากได้รับการจัดสรรหน่วยลงทุนทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว เมื่อคุณเริ่มลงทุนตั้งแต่เวลา 15.30 เป็นต้นไป คุณสามารถยกเลิกคำสั่งซื้อได้ ที่เมนู "สถานะคำสั่งซื้อ-ขาย" คุณจะไม่สามารถยกเลิกคำสั่งซื้อได้หากบริการ ROBO ADVISOR ได้ดำเนินการส่งคำสั่งซื้อและหักบัญชีฯ เพื่อชำระคำสั่งซื้อแล้ว คุณจะไม่สามารถยกเลิกรายการคำสั่งซื้อหรือขายได้ จนกว่าบลจ. จะดำเนินการจัดสรรหน่วยลงทุน โดยคุณจะสามารถดำเนินการถอนเงินลงทุนได้หลังจากได้รับการจัดสรรหน่วยลงทุนทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว |
ยกเลิกคำสั่งขายหน่วยลงทุนได้หรือไม่? | เมื่อคุณส่งคำสั่งขายก่อนเวลา 15.30 คุณจะไม่สามารถยกเลิกคำสั่งขายได้ เนื่องจากบริการ ROBO ADVISOR ได้ดำเนินการส่งคำสั่งขายเพื่อชำระคำสั่งขายแล้ว คุณจะไม่สามารถยกเลิกรายการคำสั่งขายได้ จนกว่าบลจ. จะดำเนินการชำระเงินค่าขายหน่วยลงทุนคือสำเร็จ เมื่อคุณส่งคำสั่งขายตั้งแต่เวลา 15.30 เป็นต้นไป คุณสามารถยกเลิกคำสั่งขายได้ ที่เมนู "สถานะคำสั่งซื้อ-ขาย" คุณจะไม่สามารถยกเลิกคำสั่งขายได้หากบริการ ROBO ADVISOR ได้ดำเนินการส่งคำสั่งขาย เพื่อชำระคำสั่งขายแล้ว คุณจะไม่สามารถยกเลิกรายการคำสั่งขายได้ จนกว่าบลจ. จะดำเนินการชำระเงินค่าขายหน่วยลงทุนคือสำเร็จ |
หลังจากเริ่มลงทุนแล้ว เมื่อภาวะตลาดมีการปรับตัว ต้องดำเนินการอย่างไรบ้าง? | บริษัทมีขั้นตอนในการติดตามดูประสิทธิภาพของแผนการลงทุน และมีกระบวนการพิจารณาปรับแผนการลงทุนอย่างต่อเนื่อง หากพบว่าแผนการลงทุนใดมีผลการดำเนินงานไม่สอดคล้องกับภาวะตลาดหรือมีหน่วยลงทุนที่เหมาะสมกว่า ทางบริษัทจะพิจารณาในการปรับแผนการลงทุนให้อัตโนมัติ สำหรับเป้าหมาย "บริหารความมั่งคั่งโดยผู้เชี่ยวชาญ" และ "LTF" บริษัทจะแจ้งให้ทราบผ่านทางอีเมลล่วงหน้า 5 วัน และสำหรับเป้าหมาย ."บริหารความมั่งคั่งโดย AI" บริษัทจะแจ้งให้ทราบผ่านทางอีเมลในเวลา 10.15 น. ของวันที่จะทำการปรับแผนการลงทุน โดยผู้ลงทุนไม่จำเป็นต้องดำเนินการใดๆ ระบบจะเปลี่ยนแผนการลงทุนให้อัตโนมัติ |
ระบบส่งคำสั่งซื้อ-ขายในเวลาใดบ้าง? | หากเมื่อคุณลงทุนตั้งแต่เที่ยงคืนถึงก่อนเวลา 15.30 น. ของวันทำการ เราจะดำเนินการส่งคำสั่งซื้อและหักบัญชีฯ เพื่อชำระคำสั่งซื้อแล้วทันที โดยคุณจะไม่สามารถยกเลิกคำสั่งซื้อ-ขายได้ หากคุณลงทุนหลังเวลา 15.30 น. ของวันทำการ เราจะทำการส่งคำสั่งซื้อ-ขายหน่วยลงทุน แต่หากคุณลงทุนหลังเวลาที่กำหนด คำสั่งซื้อ-ขายจะถูกดำเนินการใน 00.00 น. ในวันทำการถัดไป ทั้งนี้หากวันดังกล่าวตรงกับวันหยุดทำการของบลจ. และ/หรือ วันหยุดทำการของกองทุนรวมที่ลงทุนต่างประเทศ จะให้เลื่อนไปเป็นวันทำการถัดไป |
มียอดขั้นต่ำในการลงทุนครั้งแรกหรือไม่? | แต่ละเป้าหมายการลงทุนมีการกำหนดเงินลงทุนครั้งแรก และเงินลงทุนในครั้งถัดไปที่แตกต่างกัน ดังนี้ |
หากยอดเงินในบัญชีไม่เพียงพอกับการลงทุนต้องทำอย่างไร? | เพื่อประสิทธิภาพของการลงทุนให้เป็นไปตามที่ ROBO ADVISOR แนะนำ คุณควรทำการฝากเงินไว้ในบัญชีให้เพียงพอกับจำนวนเงินที่ต้องการลงทุน หากยอดเงินคงเหลือในบัญชีไม่เพียงพอ คุณจะได้รับหน่วยลงทุนเพียงบางส่วน ซึ่งไม่เป็นไปตามแผนการลงทุนที่ตั้งไว้ และเงินในบัญชีจะถูกชำระตามคำสั่งซื้อที่มีสถานะ"สำเร็จ" เท่านั้น คุณสามารถฝากเงินในบัญชีเพิ่มเติม และกลับมายัง ROBO ADVISOR เพื่อส่งคำสั่งซื้อที่เหลือ โดยมีวิธิการดังนี้ 1. เลือกเมนู "สถานะคำสั่งซื้อ-ขาย" หรือ "Order Status" |
ปรับพอร์ตลงทุน (Rebalance) ของเป้าหมายลดหย่อนภาษีด้วย LTF อย่างไร? | สำหรับการลงทุนในเป้าหมายลดหย่อนภาษีด้วย LTF ระบบ ROBO ADVISOR จะลงทุนให้คุณและรักษาสัดส่วนของ Asset Allocation เมื่อคุณมีการเพิ่มเงินลงทุนใหม่เข้ามาเท่านั้น ระบบจะไม่มีส่งคำสั่งซื้อ-ขายหน่วยลงทุน LTF เมื่อถึงกำหนดการปรับพอร์ตลงทุน (Rebalance) เนื่องจากมีข้อจำกัดเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ทางภาษี |
บริการ ROBO ADVISOR ช่วยคำนวณสิทธิประโยชน์ทางภาษีหรือไม่? | บริการ ROBO ADVISOR ไม่ได้ช่วยคำนวณสิทธิประโยชน์ทางภาษี เนื่องจากไม่สามารถทราบรายการลดหย่อนภาษีทั้งหมดของคุณ อาจทำให้คุณซื้อเกินสิทธิ์ และอาจทำให้ผิดเงื่อนไขในการลงทุน หมายเหตุ: คุณควรใส่จำนวนเงินที่ต้องการลดหย่อนภาษีกับบริการ ROBO ADVISOR |
เปิดบัญชีลงทุน | |
ต้องการเปิดบัญชีลงทุนต้องทำอย่างไรบ้าง? | คุณสามารถเปิดบัญชีลงทุนกับ SCBS เพื่อใช้บริการ ROBO ADVISOR ได้ 3 ช่องทาง ได้แก่ หมายเหตุ: ต้องสมัครบริการหักบัญชีอัตโนมัติโดยใช้บัญชีเงินฝากของธนาคารไทยพาณิชย์เท่านั้น สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ SCBS Call Center 02 949 1999 |
ต้องใช้เอกสารอะไรบ้างในการเปิดบัญชีลงทุน? | ไม่ต้องใช้เอกสาร ใช้เพียงบัตรประชาชนใบเดียวก็สามารถเปิดบัญชีลงทุนกับ SCBS ได้ทุกช่องทาง |
หากไม่มีบัญชีกับ SCB สามารถลงทุนกับ ROBO ADVISOR ได้หรือไม่? | ไม่ได้ เนื่องจากระบบจะเรียกชำระเงินลงทุนโดยการหักบัญชีอัตโนมัติเท่านั้น ฉะนั้นในขั้นตอนการเปิดบัญชีจึงจำเป็นต้องสมัครบริการหักบัญชีอัตโนมัติ กับบัญชีเงินฝากของธนาคารไทยพาณิชย์ |
กระบวนการลงทุน | |
บริการ ROBO ADVISOR ลงทุนในผลิตภัณฑ์ทางการเงินอะไรบ้าง? | เวอร์ชันปัจจุบันของ ROBO ADVISOR จะลงทุนเฉพาะกองทุนรวมในประเทศ อย่างไรก็ตามในอนาคต ROBO ADVISOR มีแผนที่จะลงทุนในผลิตภัณฑ์ทางการเงินอื่นๆ เพิ่มเติม เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ให้มากที่สุด |
สามารถเลือกซื้อกองทุนที่ต้องการได้เองหรือไม่? | ROBO ADVISOR ให้บริการลงทุนอัตโนมัติ โดยระบบมีขั้นตอนการคัดเลือก ติดตามผลการดำเนินงาน หรือปรับเปลี่ยนผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่เหมาะสม เพื่อให้การบริหารการลงทุนเป็นไปตามคำแนะนำในการลงทุนของเรา ระบบจึงไม่รองรับการซื้อ-ขายกองทุนแบบเฉพาะเจาะจงได้ |
การปรับพอร์ตลงทุน (Rebalance) | |
เมื่อได้รับการปรับพอร์ตลงทุนจะเกิดอะไรขึ้น? | เมื่อได้รับการปรับพอร์ตลงทุน - คุณจะไม่สามารถเพิ่ม/ถอนเงินลงทุนได้ จนกว่ากระบวนการปรับพอร์ตจะเสร็จสมบูรณ์ - บัญชีเงินฝากที่ผูกกับบัญชีลงทุนของคุณจะมีรายการเงินเข้า-ออก กรุณาคงเงินจำนวนนั้นไว้ เพื่อให้การปรับพอร์ตดำเนินการได้สำเร็จ - มูลค่าพอร์ตลงทุนอาจลดลงเนื่องจากมีคำสั่งขาย เงินจากการขายหน่วยลงทุนจะถูกโอนเข้าบัญชีฯ ตามวันที่ในหนังสือชี้ชวน และระบบจะหักเงินในบัญชีฯ อีกครั้งเพื่อนำกลับไปซื้อหน่วยลงทุนอัตโนมัติ |
ก่อนการปรับพอร์ตต้องเตรียมตัวอย่างไร? | เมื่อคุณได้รับอีเมล "แจ้งเตือน เตรียมความพร้อมการปรับสมดุลพอร์ตลงทุน (Rebalance) " กรุณาตรวจสอบให้แน่ใจว่าไม่มีคำสั่งซื้อ-ขายที่มีสถานะ "เงินในบัญชีไม่เพียงพอ" คงเหลืออยู่ เพื่อให้ระบบสามารถทำการปรับพอร์ตได้ กรณีมีคำสั่งซื้อ-ขายที่มีสถานะ "เงินในบัญชีไม่เพียงพอ" กรุณาส่งคำสั่งซื้อ-ขายอีกครั้งดังนี้ 1. เข้าสู่ EASY INVEST App 2. เลือกเมนู ROBO ADVISOR 3. เลือกพอร์ตลงทุน 4. เลือกเมนู "สถานะคำสั่งซื้อ-ขาย" 5. ตรวจสอบยอดเงินคงเหลือในบัญชีเงินฝากของธนาคารไทยพาณิชย์ ที่สมัครบริการหักบัญชีอัตโนมัติ ให้เพียงพอกับจำนวนเงินของคำสั่งซื้อที่มีสถานะ "เงินในบัญชีไม่เพียงพอ" 6. กดปุ่ม "ส่งคำสั่งซื้ออีกครั้ง" |
เมื่อได้รับการปรับพอร์ตต้องทำอย่างไร? | เมื่อคุณได้รับอีเมล "แจ้งเตือน เริ่มปรับสมดุลพอร์ตลงทุน (Rebalance)" บัญชีเงินฝากที่ผูกกับบัญชีลงทุนของคุณจะมีรายการเงินเข้า-ออก เนื่องจากคำสั่งขายและซื้อในการปรับพอร์ตลงทุนหรือเปลี่ยนแผนกลยุทธ์การลงทุน กรุณาคงเงินจำนวนนั้นไว้ เพื่อให้การปรับพอร์ตดำเนินการได้สำเร็จคุณสามารถตรวจสอบคำสั่งซื้อ-ขายจากการปรับพอร์ตได้ดังนี้ 1. เข้าสู่ EASY INVEST App 2. เลือกเมนู ROBO ADVISOR 3. เลือกพอร์ตลงทุน 4. เลือกเมนู "สถานะคำสั่งซื้อ-ขาย" |
สาเหตุที่ไม่ได้รับการปรับพอร์ตมีอะไรบ้าง? | ผลการดำเนินงานและความเสี่ยงของพอร์ตลงทุนอยู่ในเกณฑ์ที่คุณเลือกไว้ จึงยังไม่จำเป็นต้องปรับพอร์ต หรือ พอร์ตลงทุนมีคำสั่งซื้อ-ขายที่มีสถานะ "เงินในบัญชีไม่เพียงพอ" ในช่วงระยะเวลาการปรับพอร์ต |
การสร้างพอร์ตลงทุน | |
สามารถสร้างพอร์ตลงทุนได้มากกว่าหนึ่งพอร์ตหรือไม่? | คุณสามารถสร้างได้หลายพอร์ตลงทุน โดยสามารถปรับระดับความเสี่ยงของแต่ละพอร์ตลงทุนให้เหมาะสมตามเป้าหมายการลงทุนของคุณ |
การปรับระดับความเสี่ยงของพอร์ตลงทุนมีผลอย่างไร? | การปรับระดับความเสี่ยงพอร์ตลงทุนส่งผลต่อสัดส่วนการลงทุนของหน่วยลงทุน หากระดับความเสี่ยงพอร์ตลงทุนยิ่งสูงขึ้น ระบบจะออกแบบแผนการลงทุนที่มีสัดส่วนการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลต่อค่าประมาณการผลตอบแทนของพอร์ตลงทุนนั้นๆ |
เพิ่ม/ถอนเงินลงทุน ตั้งรายเดือน | |
หากต้องการเพิ่มเงินลงทุนต้องทำอย่างไร? | คุณสามารถเพิ่มเงินลงทุนได้ดังนี้ |
หากต้องการถอนเงินลงทุนต้องทำอย่างไร? | คุณสามารถถอนเงินจากบัญชีลงทุนตามขั้นตอนต่อไปนี้ เป้าหมาย "ลดหย่อนภาษีด้วย LTF" (LTF tax-benefit) บริษัทจะแจ้งวันที่โดยประมาณที่เงินจากการขอถอนเงินลงทุน (เงินค่าขายคืนหน่วยลงทุน) จะเข้าบัญชีเงินฝากฯ ของลูกค้า แต่ทั้งนี้ วันดังกล่าวจะไม่เกินระยะเวลาที่กำหนดไว้ในหนังสือชี้ชวนฯ ของกองทุนรวม • เนื่องจากหนังสือชี้ชวนฯ ของกองทุนรวมแต่ละกองทุนอาจจะกำหนดเงื่อนไขเกี่ยวกับการขายคืนหน่วยลงทุนไว้แตกต่างกัน รวมทั้งอาจจะกำหนดให้ลูกค้าต้องทำการขายคืนหน่วยลงทุนทั้งหมดที่เหลืออยู่ ดังนั้นจำนวนเงินที่ลูกค้าได้รับจริง จึงอาจแตกต่างจากจำนวนเงินที่ลูกค้ากำหนดไว้ก็ได้ |
มียอดขั้นต่ำในการถอนเงินจากการลงทุนหรือไม่? | การถอนเงินลงทุนสามารถทำได้ 2 รูปแบบ คือ • ถอนเงินลงทุนบางส่วน จำนวนเงินที่คุณต้องการถอนจะต้องมากกว่าหรือเท่ากับ 1,000 บาท และต้องมีมูลค่าเงินลงทุนคงเหลือในพอร์ตลงทุนไม่น้อยกว่า 3,000 บาท ระบบจะทำการส่งคำสั่งขายหน่วยลงทุน ตามจำนวนเงินที่คุณต้องการถอนและตามสัดส่วนของ Asset Allocation หากจำนวนเงินที่คุณต้องการถอนทำให้มูลค่าเงินลงทุนคงเหลือในพอร์ตน้อยกว่า 3,000 บาท ระบบจะขอคำยืนยันในการถอนเงินลงทุนทั้งหมด • ถอนเงินลงทุนทั้งหมด ระบบจะการส่งคำสั่งขายหน่วยลงทุนทั้งหมดในพอร์ตของคุณ จำนวนเงินที่คุณได้รับจริง อาจแตกต่างจากจำนวนเงินที่คุณกำหนดไว้ก็ได้ |
หากถอนเงินจากการลงทุน จะได้รับเงินภายในกี่วัน? | เมื่อระบบได้รับคำ "ยืนยันถอนเงินลงทุน" ก่อนเวลา 15.30 น. ของวันทำการ ระบบจะทำการส่งคำสั่งขายหน่วยลงทุน และเงินจะถูกโอนเข้าบัญชีธนาคารของคุณภายใน 5 วันทำการถัดจากวันทำรายการ และคุณสามารถตรวจสอบสถานะคำสั่งขายหน่วยลงทุนโดย 1. เข้าสู่แอปพลิเคชัน EASY INVEST 2. เข้าใช้บริการ ROBO ADVISOR 3. เลือกเมนู "สถานะคำสั่งซื้อ-ขาย" หรือ "Order Status" บริษัทจะแจ้งวันที่โดยประมาณที่เงินจากการขอถอนเงินลงทุน (เงินค่าขายคืนหน่วยลงทุน) จะเข้าบัญชีเงินฝากฯ ของลูกค้า แต่ทั้งนี้ วันดังกล่าวจะไม่เกินระยะเวลาที่กำหนดไว้ในหนังสือชี้ชวนฯ ของกองทุนรวม • เนื่องจากหนังสือชี้ชวนฯ ของกองทุนรวมแต่ละกองทุนอาจจะกำหนดเงื่อนไขเกี่ยวกับการขายคืนหน่วยลงทุนไว้แตกต่างกัน รวมทั้งอาจจะกำหนดให้ลูกค้าต้องทำการขายคืนหน่วยลงทุนทั้งหมดที่เหลืออยู่ ดังนั้นจำนวนเงินที่ลูกค้าได้รับจริง จึงอาจแตกต่างจากจำนวนเงินที่ลูกค้ากำหนดไว้ก็ได้ • กรณีที่ลูกค้าขอถอนเงินลงทุนทั้งหมด จำนวนเงินที่ลูกค้าได้รับจริง จึงอาจแตกต่างจากจำนวนเงินที่ลูกค้ากำหนดไว้ก็ได้ |
มีค่าธรรมเนียมบริการการถอนเงินหรือไม่? | บริการ ROBO ADVISOR ไม่มีการเรียกเก็บค่าบริการการถอนเงินหรือการโอนเงินออก อย่างไรก็ตามเมื่อคุณสั่งถอนเงิน ระบบจะทำการสั่งขายกองทุน หากกองทุนที่คุณลงทุนมีข้อกำหนดและเงื่อนไขในการเสียค่าธรรมเนียมการขาย คุณจำเป็นต้องเสียค่าธรรมเนียมกับทางบลจ. โดยปกติ ค่าธรรมเนียมนี้จะถูกคำนวณรวมอยู่ในค่า NAV (Net Asset Value) หรือมูลค่าหน่วยลงทุนที่ทางบลจ. เป็นผู้กำหนดให้อยู่แล้ว ทั้งนี้คุณสามารถตรวจสอบค่าธรรมเนียมของแต่ละกองทุนโดยศึกษาหนังสือชี้ชวนส่วนสรุปข้อมูลสำคัญของแต่ละกองทุน |
สามารถเปลี่ยนแปลงเงินลงทุนรายเดือนให้เพิ่มขึ้น/ลดลงจากที่กำหนดไว้ได้หรือไม่? | คุณสามารถเพิ่ม/ลดเงินลงทุนรายเดือนได้โดย 1. เข้าสู่แอปพลิเคชัน EASY INVEST 2. เลือกเมนู ROBO ADVISOR 3. เลือกพอร์ตลงทุน 4. เลือกเมนู "ลงทุนรายเดือน" หรือ "MONTHLY CONTRIBUTION" 5. กดปุ่ม "แก้ไข" หรือ "Edit Contribution" 6. แก้ไขจำนวนเงินลงทุนรายเดือน 7. ตรวจสอบรายละเอียด กดปุ่ม "บันทึกการแก้ไข" หมายเหตุ : การเปลี่ยนแปลงข้อมูลลงทุนรายเดือน จะมีผลก่อนเที่ยงคืน ในวันทำการแรกของเดือนถัดไป |
ภาษี | |
เงินปันผลที่ได้จากการลงทุนผ่าน ROBO ADVISOR ต้องเสียภาษีหรือไม่? | กองทุนปันผลจะต้องมีการเสียภาษีเงินปันผล 10% ทั้งนี้คุณสามารถเลือกให้หัก ณ ที่จ่ายหรือ จะนำมารวมกับรายได้แล้วนำไปคิดภาษีตอนสิ้นปีได้ในขั้นตอนการเปิดบัญชีลงทุนกับ SCBS (คุณจะได้รับเอกสารเพื่อเป็นหลักฐานในการอ้างอิงจากทางบลจ. หรือ SCBS ผู้ซึ่งดำเนินการหักภาษีขึ้นอยู่กับประเภทกองทุนที่ลงทุน) |
ความปลอดภัย | |
ข้อมูลของบัญชีผู้ลงทุน มีการเก็บรักษาข้อมูลอย่างไร? | รูปแบบเอกสารที่ใช้ในการเก็บข้อมูลของผู้ลงทุน เป็นรูปแบบดิจิทัลซึ่งมีความปลอดภัยสูงและมีการใช้รหัสในการเข้าถึงข้อมูลทุกครั้ง |